เมื่อโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องอยู่บ้าน ผู้สอนจึงได้แบ่งปันกลยุทธ์ที่ดีที่สุดทั้งแบบเรียนพร้อมกัน แบบสด และเรียนเมื่อไรก็ได้ ตามสะดวกเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียน

ในห้องเรียนทุกห้อง จะมีนักเรียนที่ยกมือขึ้นเสมอเพื่อเข้าร่วมสนทนา และนักเรียนที่ลังเลใจในการมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีนิสัยหลบหลีก คิดไปสักระยะก่อนที่จะพูด หรือแค่มีวันที่ไม่ดี การชักชวนเด็กที่ไม่เต็มใจจะแสดงความคิดเห็นให้เข้าร่วมการสนทนานั้นอาจเป็นเรื่องยาก
ความท้าทายในการกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมได้เพิ่มขึ้นในช่วงการเรียนทางไกล เราได้รับฟังจากครูหลายคนว่าการทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมกลายเป็นเรื่องยากขึ้นในช่วงการเรียนทางไกล แพลตฟอร์มดิจิทัลมักเป็นอุปสรรคในการสื่อสาร เช่น การที่นักเรียนไม่แน่ใจว่าควรพูดเมื่อไหร่ หรือไม่สามารถอ่านภาษากายและสีหน้าของคู่สนทนา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการสื่อสารได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ การสนทนาออนไลน์ยังได้รับผลกระทบจากความแตกต่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีของนักเรียน รวมถึงความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว ส่งผลให้ครูหลายคนต้องใช้วิธีให้นักเรียนส่งงานผ่านช่องทางที่แยกจากกัน เช่น อีเมล ซึ่งอาจทำให้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างเพื่อนร่วมชั้น หรือระหว่างครูกับนักเรียน ลดลงไปอย่างมาก
การทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมในห้องเรียนออนไลน์ไม่ใช่เรื่องง่าย
การกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในห้องเรียนเสมือนจริงต้องอาศัยความพยายามมากกว่าที่คิด “เรามักเรียกคนรุ่นนี้ว่า ‘เด็กยุคดิจิทัล’ ราวกับว่าพวกเขาเชี่ยวชาญทุกอย่างที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น” ทิม โอไบรอัน เขียนบน Facebook
“พวกเขายังคงต้องการการสนับสนุนอย่างใกล้ชิด แนวทางการเรียนรู้ที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจ และความมั่นใจ ซึ่งเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวไม่สามารถให้ได้ เพราะมันเป็นแค่เครื่องมือ ไม่ใช่ครู”
วิธีปรับปรุงการอภิปรายและการมีส่วนร่วมของนักเรียนในการเรียนออนไลน์
เพื่อค้นหาวิธีที่ช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการสนทนาออนไลน์ได้ดีขึ้น เราได้รวบรวมความคิดเห็นหลายร้อยรายการจากโซเชียลมีเดีย และสัมภาษณ์ครูมากกว่า 20 คน เพื่อดูว่าพวกเขาจัดการกับความท้าทายนี้อย่างไรเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ครูได้แบ่งปันกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดทั้งแบบ ซิงโครนัส (Synchronous) และ อะซิงโครนัส (Asynchronous) เพื่อช่วยให้นักเรียนทุกคน—แม้แต่นักเรียนที่เงียบหรือมีตารางเรียนที่ไม่แน่นอน—สามารถแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในชั้นเรียนได้
กลยุทธ์สำหรับการเรียนแบบซิงโครนัส (Synchronous Strategies)
สำหรับการเรียนรู้แบบเรียลไทม์ ครูบางคนใช้วิธีการอภิปรายแบบเดิมจากห้องเรียนจริงมาปรับใช้ในการวิดีโอคอล ขณะที่บางคนพบว่าเครื่องมือดิจิทัลช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียนได้
1. การอภิปรายแบบใยแมงมุม (Spider Web Discussion)
ในช่วงการเรียนออนไลน์ฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา นักเรียนในชั้นเรียนของ Shai Klima ได้เป็นผู้นำการอภิปรายของตนเองผ่าน Google Meet
📌 ก่อนเข้าเรียนสด นักเรียนต้องตอบคำถามเป็นรายบุคคลล่วงหน้า จากนั้นจึงนำคำตอบมาแลกเปลี่ยนกันตอนต้นคลาส เพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนาในชั้นเรียน
📌 ระหว่างที่นักเรียนสนทนาผ่านวิดีโอ Klima จะวาดเส้นเชื่อมโยงลงบนกระดาษเพื่อแสดงให้เห็นว่าการสนทนาไหลเวียนอย่างไร จนเกิดเป็นรูปใยแมงมุม
📌 เมื่อการอภิปรายสิ้นสุดลง Klima จะแชร์ภาพวาดนั้นผ่านวิดีโอ และให้นักเรียนสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์นี้ เช่น ใครเป็นผู้พูด ใครเป็นผู้ฟัง และใครเป็นผู้ต่อยอดความคิดของผู้อื่น
“วิธีนี้ช่วยให้นักเรียนรู้จักให้เครดิตเพื่อนที่ช่วยให้พวกเขาคิดไอเดียใหม่ๆ ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในห้องเรียน” Klima กล่าว นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีปัญหาด้านอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าร่วมผ่านการโทรด้วยเสียงแทนได้อีกด้วย
กลยุทธ์เพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียนในการเรียนออนไลน์
เพื่อช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้นในการเรียนออนไลน์ ครูได้แบ่งปันแนวทางการสอนที่ได้ผลดี ทั้งในรูปแบบ ซิงโครนัส (Synchronous) และ อะซิงโครนัส (Asynchronous) โดยมีตัวอย่างที่น่าสนใจดังนี้
📌 กลยุทธ์สำหรับการเรียนแบบซิงโครนัส (Synchronous Strategies)
2. ใช้แชทเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ
Paul France ครูประถมศึกษาปีที่ 3 ให้เด็กๆ ใช้ฟีเจอร์แชทของ Google เพื่อถาม-ตอบข้อสงสัย หรือส่งอีโมจิ (👍👎) เพื่อแสดงว่าพวกเขาเข้าใจเนื้อหาหรือไม่ นอกจากนี้ เขายังช่วยกำหนดกติกาในการใช้แชท เช่น ใช้อีโมจิได้ครั้งละ 1 อัน เพื่อให้การสื่อสารมีระเบียบยิ่งขึ้น วิธีนี้ช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ มีปฏิสัมพันธ์กับบทเรียนมากขึ้น
Ruth Calkins ครูอนุบาล ใช้แชทของ Zoom ในการสอนสด เด็กๆ สนุกกับการพิมพ์ “T” หรือ “F” เพื่อตอบคำถามจริง-เท็จในคณิตศาสตร์ และบางคนถึงกับพยายามพิมพ์เป็นประโยค ซึ่งยังช่วยฝึกพิมพ์แป้นพิมพ์ไปในตัว
3. Flipped Classroom เพื่อกระตุ้นการอภิปรายเชิงลึก
Forrest Hinton ครูคณิตศาสตร์ระดับมัธยมปลาย ใช้วิธีสอนแบบผสมผสาน โดยให้นักเรียนเรียนรู้เนื้อหาใหม่ แบบอะซิงโครนัส ผ่านวิดีโอบันทึกและกิจกรรมออนไลน์ แล้วใช้เวลาเรียนสด แบบซิงโครนัส ให้พวกเขาสรุปเนื้อหาและทำงานเป็นกลุ่มในห้องย่อย วิธีนี้ทำให้เขามีเวลามากขึ้นในการช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหา
4. ปรับ Think-Pair-Share ให้เข้ากับ Zoom
Ryan Tahmaseb ใช้การเรียนรู้แบบ Project-based เพื่อให้เด็กๆ มีอิสระในการทำงาน ส่งผลให้พวกเขามีไอเดียและหัวข้ออภิปรายมากขึ้น
เมื่อถึงเวลาสนทนา เขาให้เด็กๆ ทำ Think-Pair-Share ผ่าน Zoom โดยแบ่งกลุ่มย่อยเข้าห้อง Breakout Rooms และบันทึกคำตอบใน Google Docs ร่วมกัน วิธีนี้ช่วยให้นักเรียนมีโอกาสคิดเป็นลายลักษณ์อักษร หรืออ่านออกเสียงเมื่อกลับมาสรุปในคลาสหลัก อีกทั้งยังช่วยให้ครูตรวจสอบการมีส่วนร่วมได้แม้ไม่ได้อยู่ในทุกห้อง
5. เปลี่ยน Show-and-Tell ให้เป็น “Think, Write, Share”
Brittany Collins ปรับกิจกรรม Show-and-Tell ให้เข้ากับการเรียนออนไลน์ โดยให้นักเรียนเลือกภาพที่สื่อถึง “ความเชื่อมโยงระหว่างรุ่น” และเขียนตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็น ก่อนจะมาถกเถียงกันผ่านวิดีโอคอล วิธีนี้ช่วยลดความกดดันของนักเรียนที่ไม่ชอบการพูดแบบกะทันหัน
📌 กลยุทธ์สำหรับการเรียนแบบอะซิงโครนัส (Asynchronous Strategies)
แม้ว่าการสนทนาแบบซิงโครนัสจะช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น แต่การเรียนแบบอะซิงโครนัสช่วยให้เกิดความเท่าเทียมในชั้นเรียน โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีปัญหาด้านอินเทอร์เน็ตหรือมีตารางเรียนไม่แน่นอนได้เข้าร่วมมากขึ้น
6. ใช้ฟอรัมออนไลน์เพื่อกระตุ้นการโต้ตอบ
Angelina Murphy ครูภาษาอังกฤษระดับมัธยมปลาย ใช้ Google Classroom Question เพื่อให้นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับบทอ่าน จากนั้นเธอจะตอบกลับด้วยคำถามเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการสนทนา และกำหนดให้นักเรียนต้องตอบกลับเพื่อนอย่างน้อย 2 คน
Raquel Linares ใช้ Nearpod Collaborate และ Flipgrid เพื่อให้นักเรียนแชร์ภาพหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับบทเรียน วิธีนี้ช่วยให้พวกเขาเชื่อมโยงและสะท้อนความคิดกันได้ แม้เรียนอยู่คนละที่
7. เดินชมงานเพื่อนแบบเสมือน (Virtual Gallery Walks)
Joe Marangell ให้เด็กๆ นำเสนอโครงงานผ่านวิดีโอสั้น จากนั้นเพื่อนๆ ต้องให้ฟีดแบ็กผ่าน Google Sheets โดยตอบคำถาม เช่น
- สิ่งใหม่ที่ฉันเรียนรู้คืออะไร?
- อะไรที่ทำให้ฉันประหลาดใจ?
- ฉันชอบอะไรเกี่ยวกับการนำเสนอนี้?
วิธีนี้ช่วยให้ทุกคนได้เห็นผลงานของเพื่อน และพัฒนาการสะท้อนความคิดเชิงลึก
8. เปลี่ยนกิจกรรม Brainstorming เป็นออนไลน์
ในห้องเรียนปกติ กิจกรรม Brainstorming แบบหมุนเวียน (Carousel/Station) ให้นักเรียนหมุนเวียนไปยังจุดต่างๆ และเพิ่มความคิดเห็นลงไป
Marangell แปลงกิจกรรมนี้ให้เป็นแบบออนไลน์ โดยสร้าง Google Docs หรือ Google Slides และแบ่งกลุ่มให้นักเรียนตอบคำถามภายในวันกำหนด จากนั้นวันถัดไปให้พวกเขากลับไปอ่านและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม วิธีนี้ช่วยรักษาบรรยากาศการทำงานเป็นทีม แม้อยู่ในห้องเรียนเสมือนจริง
🎯 สรุป
- การเรียนแบบ ซิงโครนัส (Synchronous) ช่วยให้เกิดการโต้ตอบและกระตุ้นการสนทนาในชั้นเรียน
- การเรียนแบบ อะซิงโครนัส (Asynchronous) เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมโดยไม่จำกัดเวลาและข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
- การใช้เทคโนโลยีอย่าง Google Docs, Flipgrid, Nearpod, Zoom สามารถช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมได้มากขึ้น
การผสมผสานทั้งสองรูปแบบให้เหมาะสมจะช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สมดุลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 😊
อ้างอิง : Emelina Minero
จากเว็บไซต์ : https://www.edutopia.org/article/8-strategies-improve-participation-your-virtual-classroom